เวลา 16.45 น. วันนี้ (28 ส.ค. 63) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคาร 3 (เทเวศร์) คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ได้ประชุมเพื่อสรุปการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีดังกล่าว และลงมติความเห็นการดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา
โดยนายวิชา เปิดเผยหลังการประชุมว่า คณะกรรมการได้ทำข้อสรุปการดำเนินการตลอด 30 วัน เป็นรายงานฉบับรวมและความเห็นต่างๆ ว่าสอบใครไปแล้วกี่คน กี่ครั้ง มีสำนวนและหลักฐานอะไรที่นำมาพิจารณา รวมถึงข้อมูลใหม่ เป็นผลจากการตรวจสอบช่วงเวลา 30 วัน ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เรารวบรวม ส่วนสำคัญที่จะชี้ให้เห็นว่าอะไรเป็นข้อผิดพลาด เป็นข้อทำงานที่ไม่ถูกต้อง เป็นข้อที่น่าจะปรับปรุงแก้ไข
นายวิชา เผยอีกว่าส่วนหนึ่งก็เป็นส่วนที่ตำรวจดำเนินการแก้ไขไปแล้วตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา ม.147 แต่เราก็จะเสนอเพิ่มเติมตามที่ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ มาให้ข้อมูล ซึ่งวันนี้ก็เข้ามาให้ถ้อยคำยืนยันว่าเมาขนาดนั้นก็ยังสามารถขับรถได้ ก็จะเอาเรื่องนี้เสนอให้ตำรวจว่าจะเอาข้อหาเมาแล้วขับเข้าไปอยู่ในพยานหลักฐานใหม่หรือไม่อย่างไร แต่ไม่สามารถสั่งหรือบังคับตำรวจได้ เพียงแค่มีความเห็นสนับสนุน ส่วนจะไปสอบต่อหรือจะสอบพยานผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมก็เป็นส่วนของตำรวจต้องดำเนินการ โดยเฉพาะความเห็นของ นพ.แท้จริง ที่สำคัญมากคือถ้าปล่อยให้ตำรวจทำคดีเมาหลังขับ คนอื่นจะมาอ้างเอาคดีเมาหลังขับของบอสมาเป็นตัวอย่าง ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่ควรทำตาม
ขณะเดียวกันก็จะมีข้อเสนอถึงนายกฯ เกี่ยวกับเรื่องความบกพร่องของตำรวจและอัยการว่าใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ไม่ได้บอกว่าต้องเอาผิดคนนั้นคนนี้ เพียงแต่เป็นความเห็นเสนอไป จากนั้นนายกฯ จะพิจารณาว่าจะมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหน่วยใดดำเนินการตรวจสอบต่อ ส่วนเรื่องที่ยังค้างอยู่คือข้อพิรุธการทำลายโทรศัพท์ของนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญที่เสียชีวิต เนื่องจากทางตำรวจยังขอสอบสวนต่อ ซึ่งคดีของบอสที่เกิดขึ้นแบบนี้ทำคนเดียวไม่ได้ เป็นขบวนการที่จะทำทุกวิถีทางให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่การดำเนินการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้คณะกรรมการหมดเวลาแล้ว แต่เมื่อได้รับเรื่องไปแล้วส่วนที่เกี่ยวข้องก็ต้องเดินต่อ แต่ละหน่วยงานก็ต้องตรวจสอบต่อไป ส่วนจะมีใครบ้างที่บกพร่องก็ให้นายกฯ เป็นคนเปิดเผย
“เมื่อเห็นรายละเอียดมหากาพย์นี้ จะเห็นชัดเลยว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้จะเห็นภาพรวมของกระบวนการที่มีวิธีการร่วมกัน แต่ยังไม่ทราบว่าจะไปถึงใครอย่างไร หรือถึงขั้นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ สำหรับจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นตั้งแต่กระบวนการสอบสวน ส่วนจะเปิดเผยหรือไม่เป็นหน้าที่ของนายกฯ ถ้าใครได้อ่านรายงานจะพบว่ามีรายละเอียดที่เป็นข้อน่าสงสัยทุกจุด เมื่ออ่านดูแล้วถึงกับต้องออกปากว่าขนาดนี้เลยเหรอ และจะฉายภาพรวมเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าในกระบวนการที่ทำนั้น ทำคนเดียวไม่ได้ แต่เป็นการทำในลักษณะที่จะใช้วิธีการทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา ในรายงานไม่ชี้ชัดว่าไปถึงไหน แต่เอาเป็นว่ามีผู้เข้าร่วมในกระบวนการนี้ทุกภาคส่วนเป็นมหากาพย์ เหมือนดูละครจะมีรายละเอียดทั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนจะเปิดเผยหรือไม่แล้วแต่นายกฯ ผมไม่เปิดเผยเอง” นายวิชากล่าว
"คนเดียว" - Google News
August 28, 2020 at 07:00PM
https://ift.tt/3b3pC9e
สรุปความเห็น "ตร.-อัยการ" บกพร่อง ส่ง "นายกฯ" พิจารณาฟันผิด - ช่อง 7
"คนเดียว" - Google News
https://ift.tt/2Wbluya
No comments:
Post a Comment