Pages

Friday, July 31, 2020

เกรดAคนเดียว! ประกาศผลสอบฤดูกาล2019-20 - สยามกีฬา

sendirisolo.blogspot.com
เกรดAคนเดียว! ประกาศผลสอบฤดูกาล2019-20

    โทษฐานที่ฤดูกาลนี้เป็นอีกฤดูกาลที่ผมได้ดู แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกครบทั้ง 38 นัด โดยแบ่งเป็นการดูถ่ายทอดสด 34 นัด และไปดูที่สนาม 4 นัด (โอลด์ แทรฟฟอร์ด 3 แอนฟิลด์ 1) ว่าแล้วขออนุญาตกล่าวถึงฟอร์มการเล่นพลางตัดเกรดให้นักเตะสายพันธุ์ปีศาจแดงแบบพอสังเขป

    ผู้รักษาประตู

    ดาบิด เด เคอา : ฤดูกาลนี้น่าจะเป็นฤดูกาลที่ "พี่เดฟ" แสดงความผิดพลาดออกมาอย่างน่าเกลียดน่ากลัวตัวละ 3 บาทมากที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก แอต.มาดริด เมื่อ 9 ปีก่อน คือถึงแม้นว่าเปอร์เซนต์การเซฟลูกยากๆ จะยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจก็ตาม แต่บทจะพลาดก็พลาดง่ายๆ แบบไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้นชนิดครบสูตร

    ทั้งเตะไปอัดคู่แข่งกระเด้งเข้าประตูตัวเอง - ปิดมุมเสาแรกไม่มิด - รับลูกกระฉอก - รับลูกหลุดมือเข้าประตูดื้อๆ และป้องกันลูกที่ควรจะป้องกันไม่ได้...ซะอย่างนั้น

    เข้าใจว่าคงเสียความมั่นใจแหละ...ดูออก

    เกรด: C

เกรดAคนเดียว! ประกาศผลสอบฤดูกาล2019-20

    กองหลัง

    อารอน วาน-บิสซาก้า : การจัดการกับคู่แข่งในฐานะแบ็คขวา เขาเสียบสกัดได้แม่นยำดีนักแล และไม่ปล่อยให้ปีกซ้ายของคู่แข่งลากผ่านหรือเปิดบอลเข้ามาได้ง่ายๆ อีกต่างหาก

    ปัญหาอยู่ที่เกมรุก คือเมื่อพาบอลไปถึงเส้นหลังแล้วไม่ค่อยกล้าเปิดเข้ากลางสักเท่าไหร่ ทั้งที่จะว่าไปก็ครอสส์ลูกเข้ามาได้ไม่เลว กระนั้นก็ยังอุตส่าห์ "แอสซิสต์" ไปได้ตั้ง 4 ครั้ง

    เกรด: B

    ดิโอโก้ ดาโลต์ : ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่นัดเดียว โดยลงมาเป็นสำรองอีก 3 นัด ไม่มีอะไรให้พูดถึงสักเท่าไหร่

    เกรด: D

    แอชลี่ย์ ยัง : ช่วงต้นฤดูกาลลงเป็นตัวจริงไป 10 นัด ฟอร์มการเล่นถือว่าพอใช้ ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ แต่ด้วยอายุที่เกินสามหมิบจึงถูกขายให้ อินเตอร์ มิลาน

    เกรด: D+

    ทิมโบ้ โฟซู-เมนซ่าห์ : แทบไม่ได้ลงเล่นเลยตลอดฤดูกาล แถมถูกยืมไปนานกว่า 2 ปี ก่อนกลับมาลงสนามในช่วงท้ายของฤดูกาลแค่ 2-3 นัด ยังดูไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่

    เกรด: D

เกรดAคนเดียว! ประกาศผลสอบฤดูกาล2019-20

    ลุค ชอว์ : ฟอร์มการเล่นโดยรวม - ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไรนะครับทั้งในเกมรุกและเกมรับ ยกเว้นบางสถานการณ์ที่ถูกขยับเข้าไปเป็น 1 ในเซ็นเตอร์แบ็คของระบบ "หลังสาม" ถือว่าทำได้ไฉไลเลยทีเดียว - ยิงประตูไม่ได้ แอสซิสต์ไม่ได้ แต่พอขาดไปแล้วเห็นผลกระทบชัดเจนว่าทำให้ทีมขาดสมดุลย์

    เกรด: C+

    แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ : ข้อดีเท่าที่เห็นคือมีจิตใจนักสู้ และบู๊ล้างผลาญ เกมรุกขึ้นสุด เกมรับลงสุด แถมยิงประตูได้มากกว่า ลุค ชอว์ ซะด้วย เพียงแต่ยังขาดความนิ่ง เพราะไร้ประสบการณ์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการเรียนรู้

    เกรด: C

    อั๊กเซิ่ล ตวนเซเบ้ : เพราะอาการบาดเจ็บทำให้ลงเล่นน้อยไปหน่อยแค่ 5 นัดเท่านั้นเอง (ตัวจริง 2 สำรอง 3) โดยแสดงความผิดพลาดออกในเกมที่เจอกับ อาร์เซน่อล จนถูกตีเสมอ นอกนั้นยังพิสูจน์อะไรไม่ได้มากนัก

    เกรด: D

    วิคตอร์ ลินเดเลิฟ : โทษฐานตัวเลือกอันดับแรกในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง เจ้าของสมญา "มนุษย์น้ำแข็ง" เป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ไม่ค่อยกล้าปะทะและขาดความหนักหน่วงในบทบาทของปราการหลัง แถมชอบแสดงความผิดพลาดออกมาให้เห็นเป็นระยะทั้งที่ดูทรงแล้วเขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้จึงไม่น่าไว้วางใจสักเท่าไหร่

    เกรด: C

    แฮร์รี่ แม็กไกวร์ : ด้วยความที่มีค่าตัวมหาศาลถึง 85 ล้านปอนด์จนกลายเป็นกองหลังราคาแพงที่สุดในโลกส่งผลให้เขาถูกจ้องจับผิดเป็นพิเศษ เวลาพลาดแสดงความซุ่มซ่ามออกมาจึงมักเข้าตากรรมการจนถูกล้อเลียนอย่างหนัก แต่ผลงานโดยรวมในสายตาของผมถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง ทั้งการอ่านเกมและดักสกัด รวมถึงตัดบอลถือว่าทำได้ไฉไลเลยทีเดียว

    ไอ้หัวแตงโมนี่แหละช่วยให้เกมรับของปีศาจแดงมีความเหนียวแน่นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพียงแต่มักถูกมองข้ามความดีงามด้วยค่าตัวที่มหาศาลนี่แหละ

    เกรด: C+

เกรดAคนเดียว! ประกาศผลสอบฤดูกาล2019-20

    เอริก ไบยี่ : ถูกอาการบาดเจ็บสาหัสลักพาตัวไปตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลทำให้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่นัดเดียว สำรองอีก 2 นัด ซึ่งคงไม่เพียงพอที่จะพิพากษาว่าดีหรือห่วย

    เกรด: W

    ฟิล โจนส์ : ลงเล่นเป็นตัดจริงนัดแรกในระบบ "หลังสาม" ก็ก่อเหตุอื้อฉาวจนทีมเสียประตูทันที (ในเกมเสมอ เชฟฯ ยูไนเต็ด 3-3) ลงเล่นเป็นตัวจริงนัดที่ 2 แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ เบิร์นลี่ย์ คาบ้าน 0-2 คิดเอา !!!

    เกรด: F

    มาร์กอส โรโฮ: ทำได้ดีมากนะครับ ตอนถูกจัดลงเป็น 1 ในเซ็นเตอร์แบ็คของระบบ "หลังสาม" ในศึกแดงเดือดที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด (เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1) หลังจากนั้นก็ไม่ได้ลงเป็นตัวจริงอีกเลยกระทั่งถูกปล่อยออกจากทีมในรูปแบบยืมตัว

    เกรด: W

    กองกลาง

    ปอล ป๊อกบา : เจ็บยาวตั้งแต่ช่วงต้นของฤดูกาล และหากเกมฟาดแข้งไม่ถูกแช่แข็งซะก่อนคงกลับมาไม่ทัน ต่อเมื่อกลับมาแล้วแสดงให้เห็นว่าสามารถเข้าขากับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส โดยจะเห็นได้ว่าเขาเล่นง่ายๆ ตามจังหวะเกมแบบ ไม่ดันทุรัง เหตุเพราะหน้าต่ำอย่าง "บรูโน่" ขยันขยับหาที่ว่างตลอดเวลาทำให้ "คุณป๊อก" มีตัวเลือกในการจ่ายบอล

    ส่วนการวางยาวยังคงแม่นยำและทะลุทะลวง ครองบอลเหนียวแน่น แต่เวลาโดนแซะจนเสียบอลมักทำให้ทีมเสียประตู

    เกรด: B

    สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ : เล่นได้ดุดันบนความมุ่งมั่นและทุ่มเทเต็ม 80,000 ตีนถีบ ขึ้นๆ ลงๆ ช่วยทีมทั้งในเกมรุกและเกมรับจนกระหน่ำไป 4 ประตู ฟอร์มโดยรวมถือว่ามีอนาคต

    เกรด: C+

    เฟร็ด : ช่วงแรกๆ เหมือนจะเข้าอีหรอบเดิมนะครับคือไม่มีแมวน้ำอะไรไม่ต่างจากนักเตะสายพันธุ์แซมบ้าที่มาจากเซิ่นเจิ้น แต่หลังจากที่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ฟอร์มการเล่นก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับทั้งการจ่ายบอลใกล้ๆ ที่ไม่ค่อยพลาด เชื่อมเกมระหว่างกองหลังกับกองหน้าพลางช่วยทำลายจังหวะคู่แข่งในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับ

    เกรด: C+

เกรดAคนเดียว! ประกาศผลสอบฤดูกาล2019-20

    เนมานย่า มาติช : ตอนแรกเหมือนจะ "หมด" แล้วนะครับสำหรับดาวเตะวัยสามเบ็ดผู้นี้ คือทั้งเชื่องช้าและอืดอาดจนเต่าแทบกัดสตั๊ด แต่หลังจากได้ลงเล่นบ่อยๆ ก็เริ่มปรับจังหวะตัวเองได้อีกครั้ง จุดเด่นคือการคุมจังหวะด้วยความเยือกเย็นพลางจ่ายบอลสั้นและยาวที่ค่อนข้างแม่นยำ

    นอกจากนี้ยังอาศัยวิธีการอ่านเกม เพื่อทำลายจังหวะของคู่แข่งแบบไม่ต้องใช้แรงมากอีกต่างหาก

    เกรด: C+

    อันเดรียส เปเรยร่า : น่าเห็นใจตรงที่เป็นผู้เล่นประเภทจับฉ่ายจึงมักถูกจับไปเล่นในหลากหลายตำแหน่งทั้งมิดฟิลด์ตัวกลาง หน้าต่ำ หรือตัวริมเส้นจนหาจุดเด่นของตัวเองไม่เจอ

    เกรด: F

    เจมส์ การ์ดเนอร์ : ตลอดฤดูกาล - ดาวรุ่งจากโรงเรียนลูกกรอกคะนองผู้นี้ถูกลงเล่นเป็นตัวสำรองเพียงแค่ 8 นาทีเท่านั้นจึงไม่สามารถวิพากษ์-วิจารณ์ได้

    เกรด: W

    บรูโน่ แฟร์นันด์ส : นับตั้งแต่เกมแรกที่สวมเครื่องแบบปีศาจแดง เขายกระดับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้สูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยช่วยให้เกมรุกมีความหลากหลายและอันตรายมากยิ่งขึ้น

    ด้วยความขยันทุ่มเททำให้เขามีส่วนร่วมกับเกมตลอดเวลา แถมมีความกล้าได้และกล้าเสีย แถมวัดในทุกจังหวะ

    ลงเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกไป 14 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 9 เสมอ 5 ไม่แพ้ใครเลย โดยกระหน่ำไป 8 ประตู และแอสซิสต์อีก 7 ครั้ง

    เกรด: A

เกรดAคนเดียว! ประกาศผลสอบฤดูกาล2019-20

    เจสซี่ ลินการ์ด: ในฐานะ "หน้าต่ำ" ผู้มีหน้าที่สร้างสรรค์เกมรุก มันจัดเป็นฤดูกาลที่คุณพี่เขาโชว์ฟอร์มได้ห่วยแตกที่สุด แม้สุดท้ายแล้วจะกระทุ้งตาข่ายได้สำเร็จก็ตามที

    เกรด: F

    ฆวน มาต้า: ลงเล่นเป็นตัวจริงไปแค่ 8 นัด เรียนตามตรงว่าไม่มีแมวน้ำอะไรเลย นอกจากความขยัน วิธีการเล่นแค่ประคองตัว จับและจ่ายบอลง่ายๆ ไม่กล้าได้กล้าเสีย เลี้ยงไม่เก่ง เปิดบอลไม่แม่น และยิงประตูไม่ค่อยได้ ยังดีที่จ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูไป 2 ครั้ง

    เกรด: D

    แองเจิ้ล โกเมซ: ลงเป็นตัวสำรอง 2 นัด มีเวลารวมกันในสนามแค่ 19 นาที...จบข่าว !!!

    เกรด: W

    กองหน้า

    มาร์คัส แรชฟอร์ด : ในฐานะกองหน้าทางด้านซ้ายในระบบ 4-2-3-1 สามารถใช้ความคล่องแคล่วและรวดเร็ว รวมถึงลีลาการเล่นอันแพรวพราวเล่นงานคู่แข่งได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ข้อเสียคือจังหวะสุดท้ายที่ไม่มีความเด็ดขาดสักเท่าไหร่จึงมักตกม้าตายตอนจบเป็นประจำ

    อย่างไรก็ตามการกระหน่ำไปถึง 17 ประตู 7 แอสซิสต์ ถือว่าดีที่สุดนับตั้งแต่เลื่อนขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่

    เกรด: B

    อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล : อาจเพราะจัดอยู่ในประเภทกองหน้าสมัยใหม่ที่ไม่ปักหลักในกรอบเขตโทษ เพื่อรอเข้าชาร์จหน้าประตูเพียงอย่างเดียว ดังฉะนั้นในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า เขาจึงไม่ค่อยพุ่งเข้าฮอร์ส หรือโฉบเข้าหาบอลเท่าที่ควร โดยมักจะฉีกไปเอาบอลด้านข้าง หรือขยับลงมาต่อบอลทำชิ่งกับเพื่อนร่วมทีมมากเกินไปโดยใช่เหตุ

    พูดง่ายๆ ว่าวิธีการเล่นไม่เหมือนกองหน้าหมายเลข 9 นั่นแหละ

    กระนั้นการกดไปถึง 17 ดอก แถมแอสซิสต์ไปอีก 6 ครั้ง ถือเป็นฟอร์มการเล่นที่สะเด่าไปเลยอีน้องมากที่สุดนับตั้งแต่ขายวิญญาณให้ปีศาจแดง

    เกรด: B

เกรดAคนเดียว! ประกาศผลสอบฤดูกาล2019-20

    เมสัน กรีนวู๊ด : ในตำแหน่ง "หน้าขวา" ที่ได้ลงเล่นเป็นประจำ เจ้าหนูสิงห์นักเตะผู้นี้มีความเป็น "กองหน้า" มากกว่าเป็น "ปีก" จึงไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เกมรุกสักเท่าไหร่ บทจะหายก็หายไปเลยดื้อๆ

    อยู่ๆ ก็โผล่ออกมาสับไกยิงทันที ซึ่งทำได้อย่างยอดเยี่ยมบรรลัยจนต้องนึกถึงอดีตดาวถล่มประตูอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แถมตะบันได้เฉียบคมทั้ง 2 เท้า

    ด้วยวัยเพียงแค่ 18 ขวบ ลงตัวจริงในพรีเมียร์ลีกแค่ 12 นัด (สำรอง 19 นัด) แล้วทำลายตาข่ายไปถึง 10 ประตู มันสะท้อนถึงความเปรี้ยงปร้างมากกว่านี้ในอนาคต

    เกรด: C+

    โอเดี้ยน อิกาโล่ : ถูกยืมตัวมาเป็นอะไหล่จึงไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกสักนัด (ลงสำรอง 11 นัด) โดยทำไม่ได้เลยสักประตู แต่ก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควรในบทบาทของหัวหอกตัวเป้าที่ปักหลักค้ำกองหลังคู่แข่งในกรอบเขตโทษ

    เกรด: D+

    ตาฮิธ ชอง : ลงเป็นตัวสำรอง 3 นัด มีเวลารวมกันในสนาม 34 นาที เข้าใจตรงกันนะ

    เกรด: W

    ดาเนี่ยล เจมส์ : เปิดฉากอย่างเร้าใจดีนักและด้วยความเร็วระดับนรกไม่ต้อนรับ

    ช่วงต้นฤดูกาลเขาลากบอลตัดเข้าในแล้วตะบันตุงตาข่าย การเปิดบอลเข้ากลางในฐานะปีกซ้ายและปีกขวาก็ทำได้ดีมิใช่น้อย แต่หลังจากแนะนำตัวให้บรรดาคู่แข่งในพรีเมียร์ลีกได้รู้จักเป็นที่เรียบร้อย ข้อดีทุกอย่างที่เคยแสดงให้เห็นมันก็หายไปจนเหลือแต่ความเร็วที่ใช้ให้เป็นประโยชน์ไม่ได้

    มิเท่านั้นทักษะความสามารถเฉพาะตัวก็ค่อนข้างต่ำ เลี้ยงกินตัวคู่แข่งไม่ค่อยได้ แถมอยู่ดีๆ ก็จ่ายบอลไม่แม่นยำซะอย่างนั้น

    สรุปว่าน่าจะเป็นของปลอมนั่นแหละ

    เกรด: D

เกรดAคนเดียว! ประกาศผลสอบฤดูกาล2019-20

    ผู้จัดการทีม

    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา: การบริหารและจัดการทีมโดยรวมยังไม่ค่อยจะโสภาสักเท่าไหร่ เช่นเดียวกับการแก้เกมและเปลี่ยนตัวผู้เล่น มิหนำยังคิดมากเกินไปหน่อย แต่ทว่าอย่างน้อยก็ดึงแนวทางการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของปีศาจแดงกลับมาได้ในระดับหนึ่ง

    นอกจากนี้ยังยึดสูตรการจัดตัวที่ค่อนข้างชัดเจนคือ 4-2-3-1 พร้อมผู้เล่นที่ลงตัวในทุกตำแหน่ง โดยจะเปลี่ยนระบบการเล่นเฉพาะตอนปะทะกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า ยกตัวอย่างเช่น แมนฯ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล ซึ่งก็ถือว่าทำได้ไม่เลว

    ถือว่าสอบผ่านแบบหวุดหวิด

    เกรด: C

    อนึ่ง สำหรับผู้เล่นยอดเยี่ยมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ประจำฤดูกาลนี้คงเห็นพ้องต้องกันว่าคงจะเป็นใครไปเสียมิได้ นอกจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่วนดาวรุ่งยอดเยี่ยมก็คงจะเป็นใครไปเสียมิได้เช่นกัน นอกจากกองหน้าวัย 18 ขวบที่ขวาตาย ซ้ายทะลวงไส้ กะซวกตาข่ายได้หนักหน่วงปานภูผาถล่มทลาย และคบกริบระดับบาดหินขาดเลยทีเดียว

    บอ.บู๋

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
เพิ่มเพื่อน

Let's block ads! (Why?)



"คนเดียว" - Google News
August 01, 2020 at 11:32AM
https://ift.tt/2BSPRlS

เกรดAคนเดียว! ประกาศผลสอบฤดูกาล2019-20 - สยามกีฬา
"คนเดียว" - Google News
https://ift.tt/2Wbluya

La FAO lance une plateforme contre les pertes et gaspillage alimentaires - Commodafrica

sendirisolo.blogspot.com

La FAO a lancé mercredi une plateforme destinée à réduire les pertes et le gaspillage alimentaires. Il s’agit également pour l’agence spécialisée des Nations Unies de préparer la Journée internationale de sensibilisation aux pertes de nourriture et au gaspillage qui sera célébré pour la première fois le 29 septembre 2020, souligne un communiqué.

Qu'entend-on par "pertes de nourriture"? Lorsque «des aliments sont abîmés ou renversés avant d'atteindre la dernière étape de production ou d'entrer dans le circuit de la vente au détail, [ou lorsque] des aliments sont jetés par des consommateurs ou éliminés dans le cadre du commerce de détail parce qu'ils ne correspondent pas à des normes de qualité strictes ou, comme cela arrive souvent, en raison d'une méconnaissance de la signification des dates inscrites sur le produit », précise la FAO.

La mise en œuvre de la plateforme a été financée par la Direction du développement et de la coopération suisse. Il s’agit d’un portail qui offre l’accès à l’ensemble des ressources de la FAO sur les pertes et le gaspillage. Il est ainsi possible d’observer la répartition géographique de ces pertes et gaspillages, d’intégrer un forum de discussion, d’obtenir des cours en ligne, des informations et des conseils.

A cette occasion, le directeur de la FAO appelle à assouplir les règlements et les normes qui fixent les critères esthétiques des fruits et légumes, à améliorer les habitudes de consommation et à créer des politiques publiques visant à diminuer le gaspillage de nourriture.

Rappelons que 14 % des aliments sont perdus chaque année, ce qui représente $ 400 milliards, des émissions à effet de serra qui représentent 1,5 gigatonne d’équivalent CO2. Les pertes sont plus élevées dans les pays en développement que dans les pays développés.




July 31, 2020 at 10:01PM
https://ift.tt/3hUIOrX

La FAO lance une plateforme contre les pertes et gaspillage alimentaires - Commodafrica

https://ift.tt/3fWhGrS
gaspillage

เปิดเหตุผล "บูล" รักเดียว "กีฟ" มั่นคง 8 ปี ขอเวลาทำงานสร้างตัวเพื่อดูแลกันได้ดีที่สุด - ไทยรัฐ

sendirisolo.blogspot.com

กำลังขาขึ้นงานรุ่ง รักดี พระเอกหนุ่ม “บูม-กิตตน์ก้อง ขำกฤษ” สวมบทบาทกำลังเข้มข้นได้ที่ในละคร “พรหมพิศวาส” ทางช่อง 7 แถมชีวิตจริงความรักกับสาว กีฟ-ดราภดา ก็กำลังไปได้สวย ร่วมกันทำธุรกิจร้านขนมปัง บูมส์เบกส์ (Boom’s Bakes)

สร้างอนาคตลงตัวขนาดนี้เลยต้องถามบูมว่า ความรักกับกีฟใกล้มีข่าวดีหรือยัง? “ไม่บอกครับ เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์ ก็ขอเวลาอีกนิดนึง ตอนนี้กำลังลุยธุรกิจเต็มที่ เริ่มอยู่ตัวแล้วและผมก็เพิ่งจะได้รับมอบหมายให้เป็นพระเอกเต็มตัวต่อเนื่อง ก็กำลังสนุกกับการทำงานอยู่ ขอเวลาอีกสักแป๊บนึงจะได้เก็บเงินไปในตัวด้วย วันที่แต่งงานหลังจากนั้นจะได้ดูแลเค้าได้ดีที่สุด ก็อีกสักพักนึง คงไม่นานเกินไป บอกไม่ได้ ถ้าบอกว่าปีหน้าเดี๋ยววันๆเค้าก็ไม่ทำอะไร รอแต่งตัวสวยรอผม อาจจะพรุ่งนี้ก็ได้นะ เก็บไว้เซอร์ไพรส์ดีกว่า”

เค้าเข้าใจว่าตอนนี้เป็นช่วงขาขึ้นในการทำงานของเรา? “เค้าเข้าใจเรามาโดยตลอด ปีนี้ก็ปีที่ 8 แล้วที่คบกันมา ตอนแรกจนถึงตอนนี้เค้าก็รู้ดีว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เราคุยกันตลอด ถ้าวันนึงมันมาถึงวันนั้นเขาก็ต้องเข้าใจว่าเราพร้อมจริงๆ อย่างวันนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่กล้าขอเขานะ บางทีเขาอาจจะไม่ตอบตกลงก็ได้ เพราะกลัวจะต้องกลับมาถามผมว่าพร้อมแล้วจริงเหรอ เรื่องนั้นเรื่องนี้เคลียร์หรือยัง เราคุยกันตลอดเวลา ผมว่าเผลอๆถึงวันที่มันพร้อมผมอาจจะนั่งคุยกับเค้าเฉยๆแค่สองคนด้วยซ้ำว่าวันนี้พร้อมแล้วนะ ผมกับเค้าเราอยู่ด้วยกันทุกช่วงเวลาจนเป็นได้ทุกสถานะกันแล้ว เป็นเพื่อน เป็นพาร์ตเนอร์ เป็นแฟน เป็นคนในครอบครัว เป็นทุกอย่าง”

ไม่มีใครสามารถแทรกได้ หลายคนอิจฉาที่เราเป็นคนที่รักมั่นคง รักเดียวใจเดียวมานาน? “คงต้องบอกว่าผมโตมาแบบนี้ ครอบครัวผมเป็นแบบนี้ พ่อมีแม่แค่คนเดียว ผมก็เคยเห็นคนเจ้าชู้นะ แต่ผมมองว่าพ่อผมที่รักแม่ผมคนเดียวมันเท่กว่า ผมก็อยากเป็นแบบพ่อผม ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน ผมมีเขาแค่คนเดียวมันสบายใจดี เพราะผมเป็นคนที่โกหกไม่เป็น ถ้าเรามีคนอื่น เราหลายใจ เราต้องโกหก แล้วผมขี้ลืม คิดดูถ้าวันนึงผมไปโกหก ผมไปนั่นมา ไปนี่มา เค้าย้อนกลับไปถามข้อแรกถ้าผมตอบผิดผมจะมีชีวิตอยู่ยังไง ฉะนั้นผมต้องพูดแต่ความจริง”

กลัวแฟนรึเปล่า? “เรียกว่าให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่าไปพูดว่ากลัว เสียการปกครองหมด เราก็เลยพูดแต่ความจริง ไม่มีการนอกใจอะไร เพราะเราเป็นคนขี้ลืม กลัวว่าโกหกแล้วจะมีปัญหาเพราะเขาจะจับได้”

มาทำธุรกิจด้วยกันมีปัญหากันบ้างมั้ย? “ไม่มีเลยครับ อย่างที่บอกว่าเราก็จะเปลี่ยนความสัมพันธ์กันไปตลอด เวลาที่เราทำงานเราก็จะเป็นพาร์ตเนอร์กัน คุณมีไอเดียอะไรคุณก็บอกมา ผมมีไอเดียอะไรผมก็บอก แล้วเราก็จะประชุมกัน มีทีม มีลูกน้อง ถ้าความเห็นของเค้ามีคนเห็นด้วยมากกว่าเราก็ต้องยอม เราจะยืนยันเอาความคิดเราไม่ได้ เราจะใช้เหตุผลคุยกันในทุกๆเรื่อง ก็ไม่มีปัญหาครับ”.

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)



"คนเดียว" - Google News
August 01, 2020 at 08:45AM
https://ift.tt/30fRvXW

เปิดเหตุผล "บูล" รักเดียว "กีฟ" มั่นคง 8 ปี ขอเวลาทำงานสร้างตัวเพื่อดูแลกันได้ดีที่สุด - ไทยรัฐ
"คนเดียว" - Google News
https://ift.tt/2Wbluya

4.000 Tonnen Abfall auf wallonischem Autobahnnetz entsorgt - GrenzEcho.net

sendirisolo.blogspot.com

4.000 Tonnen Abfall auf wallonischem Autobahnnetz entsorgt

Kostenpunkt für die Einsammlung dieser 4.000 Tonnen: ein Budget von sechs Millionen Euro. Neben dem Schaden für die Umwelt kann der am Straßenrand entsorgte Abfall auch die Abwasserkanäle und Wasserleitungen verstopfen und Abfluss- und Aquaplaning-Probleme verursachen, hieß es in der Pressemitteilung.

Sofico erinnert auch an die geltenden Bußgelder: zum Beispiel 100 Euro für das Werfen von Müll aus einem Autofenster und 150 Euro für die Ablagerung von Hausmüll an einer Autobahnraststätte.

Um auf das Problem aufmerksam zu machen – vor allem jetzt, zur Urlaubszeit – startet Sofico eine Plakatkampagne zur Förderung der Sauberkeit. Insgesamt werden 300 Schilder entlang der Autobahnen und Nationalstraßen aufgestellt, und Videos werden in den sozialen Netzwerken veröffentlicht. (belga)




July 31, 2020 at 06:04PM
https://ift.tt/2Dqlaoe

4.000 Tonnen Abfall auf wallonischem Autobahnnetz entsorgt - GrenzEcho.net

https://ift.tt/31FhsRU
Abfall

「Tile Mate」入りで880円のスターターブック、全国のファミリーマートで販売 - ケータイ Watch

 Tileは、落とし物・忘れ物を防止するBluetoothトラッカー「Tile Mate」を同梱した「Tile Mate Book」を7月31日より全国のファミリーマート約5000店の書籍コーナーで販売する。

 「Tile」は、「Tile」アプリをインストールしたスマートフォン等の位置情報をもとに、「Tile」を取り付けたカギなどの位置を確認でき、貴重品の紛失時に早期の発見を助ける。

 「Tile Mate Book」は、Tile初心者向けのスターターキットで、Tileの使い方や設定手順をわかりやすく紹介している。同梱されるTileは「Tile Mate」で、販売価格は税込880円。

ファミリーマートで「Tile Mate Book」を発売

 書籍に同梱される「Tile Mate」はのカラーはホワイト、電池寿命は約1年間で、現行世代の「Tile Mate」と異なり電池交換には非対応となる。大きさは34×34×4.65mm、重さは約6.1g。最大接続距離は約30m。

同梱される「Tile Mate」仕様

Let's block ads! (Why?)



"メイト" - Google ニュース
July 31, 2020 at 12:17PM
https://ift.tt/31iy2p5

「Tile Mate」入りで880円のスターターブック、全国のファミリーマートで販売 - ケータイ Watch
"メイト" - Google ニュース
https://ift.tt/38bOee5
Shoes Man Tutorial
Pos News Update
Meme Update
Korean Entertainment News
Japan News Update

愛媛)伊方原発トラブル、四電の報告書に町長「理解」 - 朝日新聞社

 四国電力伊方原発(愛媛県伊方町)でトラブルが続き、3号機の定期検査が中断している問題で、伊方町の高門清彦町長が31日、県庁で中村時広知事と会談し、再発防止策などを盛り込んだ四電の報告書を「町として理解する」と表明した。県と町は近く、報告書や定期検査の再開について見解や要望を四電に伝える。

 高門町長は会談で「まだ不安が払拭(ふっしょく)されないという声もある。町民の安心安全ということを基本に置き、四電に何点か要望したい」と述べた。中村知事は「緊張感ある態勢を欠くことのないよう、四電に言い続けることが極めて重要」と応じた。(足立菜摘)

Let's block ads! (Why?)



"報告書" - Google ニュース
August 01, 2020 at 07:30AM
https://ift.tt/30ml3Dz

愛媛)伊方原発トラブル、四電の報告書に町長「理解」 - 朝日新聞社
"報告書" - Google ニュース
https://ift.tt/2RI6i8m
Shoes Man Tutorial
Pos News Update
Meme Update
Korean Entertainment News
Japan News Update

4.000 Tonnen Abfall auf wallonischem Autobahnnetz entsorgt - GrenzEcho.net

sendirisolo.blogspot.com

4.000 Tonnen Abfall auf wallonischem Autobahnnetz entsorgt

Kostenpunkt für die Einsammlung dieser 4.000 Tonnen: ein Budget von sechs Millionen Euro. Neben dem Schaden für die Umwelt kann der am Straßenrand entsorgte Abfall auch die Abwasserkanäle und Wasserleitungen verstopfen und Abfluss- und Aquaplaning-Probleme verursachen, hieß es in der Pressemitteilung.

Sofico erinnert auch an die geltenden Bußgelder: zum Beispiel 100 Euro für das Werfen von Müll aus einem Autofenster und 150 Euro für die Ablagerung von Hausmüll an einer Autobahnraststätte.

Um auf das Problem aufmerksam zu machen – vor allem jetzt, zur Urlaubszeit – startet Sofico eine Plakatkampagne zur Förderung der Sauberkeit. Insgesamt werden 300 Schilder entlang der Autobahnen und Nationalstraßen aufgestellt, und Videos werden in den sozialen Netzwerken veröffentlicht. (belga)




July 31, 2020 at 06:04PM
https://ift.tt/2EvsyPM

4.000 Tonnen Abfall auf wallonischem Autobahnnetz entsorgt - GrenzEcho.net

https://ift.tt/31FhsRU
Abfall

Fast jeder dritte Franzose wirft Abfall aus dem Autofenster - Neue Westfälische

sendirisolo.blogspot.com

Auch entlang deutscher Straßen ist die Menge an illegal entsorgtem Abfall hoch

Talin Dilsizyan
31.07.2020 | Stand 31.07.2020, 16:11 Uhr

Paris. Gerade in der Ferienzeit ist viel los auf französischen Autobahnen. Nicht nur Staus, sondern auch das hohe Aufkommen an illegal entsorgtem Müll bereitet Probleme, wie eine Studie von Vinci Autoroutes, dem größten Betreiber von Autobahnen in Europa, bestätigt.




July 31, 2020 at 08:42PM
https://ift.tt/3hTSenD

Fast jeder dritte Franzose wirft Abfall aus dem Autofenster - Neue Westfälische

https://ift.tt/31FhsRU
Abfall

Die Abfall-Wirtschaft - Süddeutsche Zeitung

sendirisolo.blogspot.com

Plötzlich knallt es laut. 35 Gäste zucken zusammen. Gerade haben sie sich noch fröhlich auf der schattigen Terrasse unterhalten, haben gerösteten Blumenkohl auf Kräuter-Kartoffelstampf, Betesalat mit eingelegten Sauerkirschen oder Agnolotti mit Auberginen-Zucchini-Pesto gegessen, nun starren sie auf die Kellnerin am Tisch außen links. Beim Abräumen hat sie zwei Wassergläser aufeinandergehauen, das untere ist förmlich in ihrer Hand explodiert. Doch sie hebt gleich ihre Arme: Alles in Ordnung, ihr ist nichts passiert. In jedem anderen Lokal wäre der kleine Unfall damit genau so plötzlich vergessen gewesen, wie es geknallt hat. Hier nicht. Im "Frea" in Berlin-Mitte wirft der Moment der vielen kleinen Scherben eine große Frage auf: Was um Gottes Willen passiert nun mit dem kaputten Glas?

Das "Frea" auf der Torstraße, zwischen Rosenthaler Platz und Oranienburger Tor, bezeichnet sich - nicht gerade geländegängig - als "das erste pflanzenbasierte, vegane zero waste Restaurant in Berlin-Mitte". Pflanzenbasiert und vegan - das gibt es in Mitte eigentlich an jeder Ecke, manche Eisdielen funktionieren hier so und sogar Burgerläden. Die Unterscheidung beider Begriffe hält man hier für wichtig. Manche nutzen sie nebeneinander, weil mit "vegan" zwar alle etwas anfangen können, "pflanzenbasiert" aber der Ausdruck ist, der weniger dogmatisch und nicht von der Industrie korrumpiert sei und mehr für Nachhaltigkeit stehe, wie man im "Frea" etwas umständlich erklärt. Was das "Frea" aber tatsächlich besonders macht, ist sein Anspruch, das weltweit erste Restaurant zu sein, das pflanzenbasiert und mit Zero-Waste-Konzept arbeitet, das also keinerlei Müll produziert. Geht das überhaupt?

Fast zwölf Millionen Tonnen Lebensmittel werfen die Deutschen pro Jahr in den Müll

David Suchy steht am nächsten Morgen in kurzer Sporthose und Schlabberpulli an seiner Theke und lacht. Hinter diesem großen Mann, der kein Gramm Körperfett zu besitzen scheint, hängen trichterförmige Lampenschirme, hergestellt aus Pilzen und Wurzelwerk. Um ihn herum stehen Stühle und Tische, die er selbst entworfen oder auf Ebay gekauft hat. Und an der Wand hängt ein Kunstwerk, hergestellt aus zusammengeschmolzenem Plastik, das beim Umbau des Lokals angefallen war.

"Es kommen immer Leute, die sticheln wollen", sagt der 32-Jährige. Leute, die seinen Ansatz hinterfragen und im Restaurant nach Dingen suchen, die eben doch Müll produzieren. "Ein bisschen Schwund ist immer", gibt Suchy offen zu. Die Industrie sei eben noch nicht so weit, dass sie nach abfallloser Philosophie funktioniert. Beim Spülmaschinenreiniger etwa, der eben doch in Plastikkanistern geliefert wird. Beim Olivenöl, das in Plastikeimern kommt. Oder beim kaputten Glas, das auf seiner Terrasse lag. "Ich habe aber zu viel Zeit in dieses Thema investiert, als dass ich keine plausiblen Antworten darauf hätte."

An "diesem Thema" kommt man als Gastronom und Koch, aber auch als Gast kaum noch vorbei. Der "Thünen Report 71" hat Ende 2019 geschätzt, dass in Deutschland pro Jahr knapp zwölf Millionen Tonnen Lebensmittelabfälle zusammenkommen. Es ist nur eine Schätzung, weil die Zahlen des Braunschweiger Thünen-Instituts für ländliche Räume nicht hinreichend gesichert sind, sie basieren auf Daten aus dem Jahr 2015. Alarmierend genug sind sie trotzdem. Und sie kommen zum Ergebnis: Etwas mehr als die Hälfte der Abfälle wäre theoretisch vermeidbar.

Müllvermeidung "hat in gastgewerblichen Betrieben in den vergangenen Jahren immer mehr an Bedeutung gewonnen", sagt Christian Reuter, Referent für Lebensmittelrecht beim Deutschen Hotel- und Gaststättenverband (Dehoga). Anfang 2020 hat der Dehoga mit anderen Verbänden und dem Bundesministerium für Ernährung und Landwirtschaft eine "Grundsatzvereinbarung zur Reduzierung von Lebensmittelabfällen" unterzeichnet. "Bis zum Jahr 2030 möchte die Bundesregierung das Ziel erreichen, die Nahrungsmittelverschwendung pro Kopf auf Einzelhandels- und Verbraucherebene zu halbieren", heißt es darin. So sollen zum Beispiel Abfälle, die entlang der Produktions- und Lieferkette entstehen, künftig verringert werden. Es gibt Studien, nach denen bei Großverbrauchern 17 Prozent der bereits verarbeiteten Lebensmittel weggeschmissen werden, auch das soll drastisch weniger werden. Denn eigentlich wäre die Rechnung sehr einfach: Wer weniger Abfall produziert, schont nicht nur die Umwelt, er hat auch weniger Kosten. Es gibt deshalb inzwischen verschiedene Dialogforen, damit jeder Gastronomietyp Lösungen findet, die auch praxistauglich sind.

Karotten lassen sich prima in kompostierten Zitronenschalen garen

David Suchy hat seine Lösung in Südengland entdeckt. Zehn Tage lang hat er im "Silo" in Brighton mitgearbeitet, dem ersten Restaurant überhaupt, das den Anspruch an sich stellte, keinen Abfall zu produzieren. Sein Gründer, Douglas McMaster, ist der Vorreiter der Zero-Waste-Bewegung. Auch weil er die Gastroszene damit inspiriert, dass er vom Suppenteller bis zur Tischplatte alles recycelt oder dass er Karotten in kompostierten Zitronenabfällen gart. Was nicht überall gut ankommt: Das "Silo" ist wegen seiner Ideologielastigkeit auch angegriffen worden. Man vergesse dort, dass Essen auch Spaß machen soll.

Im "Frea" will David Suchy das anders machen, hier soll sich ein Besuch anfühlen wie "nach Hause zu kommen". Die kurze Zeit im "Silo" reichte ihm jedenfalls, um eine Maschine kennenzulernen, die Suchy heute sein eigenes Restaurantprojekt ermöglicht. Diese sieht aus wie eine Tiefkühltruhe aus Stahl und steht gut sichtbar an einer Wand des Gastraums. "Oben schmeißen wir unsere Essensreste rein, die dann kontinuierlich bei 50 bis 60 Grad Temperatur mit einem Ansatzboden aus Bakterien durchgemischt werden", erklärt David Suchy und tätschelt die Maschine zärtlich. Innerhalb von 24 Stunden ist alles auf zehn Prozent der ursprünglichen Größe zu Erde kompostiert. "Nach einer Woche entnehmen wir der Maschine zwei Drittel der Erde", sagt Suchy. Diese Erde wird in den Plastikeimern, in denen das Olivenöl geliefert wurde an die Bauern gegeben, die dem "Frea" ihre Lebensmittel liefern. "So entsteht ein Kreislauf ohne Lebensmittelverschwendung".

Es ist einfacher, nichts wegzuwerfen, wenn man vegan kocht

Natürlich stehen im Hinterhof trotz aller Abfallvermeidung immer noch die Mülltonnen, die aber nicht zum Restaurant, sondern zum ganzen Haus gehören. Nur für Glas, Papier und Biomüll hat Suchy eine eigene Tonne angeschafft - falls im Notfall eben doch mal etwas anfällt. Aber widerspricht das nicht seiner Null-Toleranz gegenüber Müll? "Wir haben in Berlin eine richtig krasse Abfallsortierung und Recyclinganlagen", sagt Suchy. "Die Berliner Stadtreinigung macht einen super Job, die recyceln alles und machen daraus Biogas." Natürlich klingt das ein bisschen nach Ausrede. Aber es geht bei Müllvermeidung auch um den Lernprozess. Jedenfalls merkt man Suchy an, dass er diese Zweifler-Gespräche öfter führt. Das "Frea" hat zudem den Vorteil, dass keine tierischen Lebensmittelreste anfallen, so kann Suchy komplett recyceln und recyceln lassen. Fleischabfälle müsste er, wie jeder Gastrobetrieb, gekühlt lagern, bis sie wöchentlich oder alle 14 Tage abgeholt werden.

Frea Berlin

Unter den Blütenblättern verbirgt sich der Hauptgang des Überraschungsmenüs: Gegrilltes Gemüse in einer Pastinaken-Soße.

(Foto: Max Sprick)

Dazu kommt, dass die Küche sehr nachhaltig arbeitet. Alles, was Suchys insgesamt zehn Köche, von denen einige Erfahrungen in Sterne-Restaurants gesammelt haben, auf die Teller zaubern, wird im Haus selbst hergestellt. Aus Kichererbsen wird Sahne aufgeschlagen, aus Gemüseschalen werden Soßen gekocht. Verpackungen vermeidet Suchy, indem er nur Lieferanten beauftragt, die ihm garantieren, unverpackt zu liefern. Bis auf Kakaobohnen und Olivenöl kommt alles aus der unmittelbaren Region, um den ökologischen Fußabdruck niedrig zu halten.

"Zero Waste war für mich der nächste logische Schritt", sagt Suchy. Seit Jahren beschäftigt er sich mit Ernährung, probierte verschiedene Formen an sich aus und gründete einen Catering-Service, anfangs ökologisch, später vegan. "Zusammen mit meiner Ehefrau habe ich dann überlegt: Wie kann ich noch nachhaltiger werden, wie kann ich unsere Message nach außen bringen?" Sein Konzept definiert für ihn die Zukunft der Gastronomie insgesamt. Suchy sieht sich als Wegweiser für andere, die seinen Weg wählen - auch wenn er bislang kaum Nachahmer sieht. "Die Corona-Pandemie hat dieses Thema in den vergangenen Monaten etwas in den Hintergrund rücken lassen", sagt Christian Reuter vom Dehoga. "Aktuell kämpfen viele Gastronomen und Hoteliers schlicht ums Überleben. Wir befürchten, dass die Existenz von 70 000 Betrieben, als fast jedem Dritten im Hotel- und Gaststättengewerbe bedroht ist."

Das Essen muss natürlich schmecken, das ist das Wichtigste

Andererseits betonen viele Köche gerade, Corona haben ihnen noch einmal gezeigt, wie wichtig es sei, umzudenken. Nachhaltiger, regionaler und in Kreisläufen zu arbeiten. Sich auf das Wesentliche zu konzentrieren. "Wir sind gut mit den Corona-Beschränkungen klargekommen", sagt Suchy. Nach dem Ende des Gastro-Lockdowns stellt er ein gestiegenes Bewusstsein in der Gesellschaft fest: "Für Essen, für Ernährung, fürs Rausgehen und das Genießen." Das "Frea" sei "jeden Abend ausgebucht, sieben Tage die Woche." Was wohl auch daran liegt, dass das Essen für Suchy an erster Stelle steht. "Alles, was danach kommt, ist ein Aha-Effekt. Aha, das Essen war fleischlos, aha, bei seiner Zubereitung wurde kein Abfall produziert." Es ist doch so: Wenn das Essen nicht schmeckt, interessiert sich niemand für die Ethik dahinter.

Frea Berlin

Das Dessert: Eingelegte Früchte mit Eissorbet und Granola - und einer Blumenblüte.

(Foto: Max Sprick)

Im "Frea" gehen die Servicemitarbeiter erst einmal vor dem Gast in die Knie, um möglichst zugewandt zu erklären, was auf dem Teller liegt, den sie servieren. Da gibt es zum Beispiel Lauch mit Lauch und Lauchsoße, "weil wir wirklich jeden Teil des Lauchs verwenden". Oder handgemachte Spaghetti mit gelber Tomatensoße. Alle vier bis sechs Wochen wechselt die Karte, die je drei Vorspeisen, Hauptgerichte und Desserts anbietet. Oder man bestellt das Überraschungsmenü in drei Gängen für 39 Euro. Eine Restaurantkritik würde hier den Rahmen sprengen, nur so viel: Die Lauchvariation definiert Vorspeisen neu, das gegrillte Gemüse lässt keinen Gedanken an Fleischbedarf aufkommen. Und es spricht auch für sich, dass den gesamten Abend über kein Teller mit Essensresten von den Tischen geräumt wird.

Das Glas übrigens, das explodiert war, sieht Suchy auch als ein Zeichen. "Dafür, dass man nicht immer alles an Müll vermeiden kann." Was er damit sagen will: Es geht bei dem Thema nicht um Dogmen, sondern darum, jeden Tag ein wenig besser zu werden. "Wir alle können dazu beitragen"




July 31, 2020 at 11:49PM
https://ift.tt/33dWXww

Die Abfall-Wirtschaft - Süddeutsche Zeitung

https://ift.tt/31FhsRU
Abfall

"報告書" - Google ニュース

หมอเล่าอีกมุม ครอบครัว "อยู่วิทยา" ปิดทองหลังพระ ทำผิดคนเดียวเจอเหมารวม - Sanook

sendirisolo.blogspot.com

หมอจุฬาฯ เล่าถึงเพื่อนสนิท เอ สราวุฒิ และครอบครัวอยู่วิทยา เป็นผู้ปิดทองหลังพระ ทำงานช่วยเหลือสังคม ชี้ผิดคนเดียวสมควรหรือต้องเหมารวม

(31 ก.ค.) เฟซบุ๊ก Rattaplee Pak-art แพทย์ที่ รพ.จุฬาฯ และเป็นเพื่อนกับ เอ สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทกลุ่มธุรกิจ TCP ลูกชายของเฉลียว อยู่วิทยา และ ภาวนา หลั่งธารา ได้สะท้อนอีกมุมหนึ่งหลายคนอาจไม่รู้เกี่ยวกับการทำงานช่วยเหลือสังคม ในรูปแบบปิดทองหลังพระของกลุ่มธุรกิจ TCP หลังจากที่เพื่อนสนิทและครอบครัวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากข่าวของ บอส วรยุทธ อยู่วิทยา 

โดยระบุว่า “ผมเป็นเพื่อนของสราวุฒิ อยู่วิทยา ครับ ขอเรียกชื่อเล่นแบบง่ายๆว่า เอ อยากเขียนถึงเพื่อนคนนี้ให้คนอ่านบ้าง ช่วงนี้เอและครอบครัวเจอศึกหนักมาก โดนว่าโดนด่าจากสังคม โดนประณามจากคนที่ไม่รู้จักหนักหนาเหลือเกิน

เท่าที่คุยกัน เอก็มีความรู้สึกเหมือนพวกเราทุกคนแหละครับ เพียงแต่ไม่ได้ออกมาโพสต์ความในใจให้ทุกคนอ่านหรือฟังกัน เอก็รู้เรื่องนี้จากข่าวเหมือนเรา คือรู้ทีหลังเลย ยังตกใจเหมือนเราอีกว่า เมืองไทยทำยังงี้ได้ด้วยเหรอ(วะ) เหมือนเราตรงที่ไม่พอใจที่จะมีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม กฎหมายและความถูกต้อง แต่จะจัดการก็คงไม่ง่ายนัก

นึกถึงตอนเรียนชั้นประถม ในห้องมีเพื่อนส่งเสียงดังเล่นกันอยู่คนสองคน วันนั้นคุณครูเอาไม้เรียวหวดก้นยกชั้น ผมเองถึงแม้ยังเด็ก แต่ก็ไม่เข้าใจ ว่าเราไม่ได้ทำผิด ทำไมถึงโดนตี ครูบอกว่า อยู่ห้องเดียวกัน ไม่เตือนกัน ไม่ช่วยกันดูแล ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ครูไม่รู้หรอกครับ ว่าเราเตือน เราห้ามเพื่อนแล้ว เราช่วยกันดูแลแล้ว แต่เพื่อนตัวแสบมันไม่ฟังเรา

ตอนที่โดนตี เพื่อนหลายคนก็พยายามบอกความจริงกับครูว่าอะไรเป็นอะไร แต่ครูไม่ฟัง ครูตั้งใจมาตีอย่างเดียวเลย วันนี้สังคมใน social media ทำตัวเหมือนเป็นครูคนนั้น ไม่แม้แต่พยายามจะฟังหรือพยายามจะเข้าใจ เวลาที่ผ่านไป เด็กดีในห้องหลายคนก็ไม่เข้าใจว่าจะทนทำดีไปทำไมกัน สุดท้ายก็ต้องมาโดนครูตีเหมือนกับเจ้าเพื่อนตัวแสบ

ผมกับ สราวุฒิ(เอ) อยู่วิทยา เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ ม.4 ที่เตรียมอุดม จากนั้นก็แยกย้ายไป ผมมาเรียนหมอที่จุฬาฯ ส่วนเอไปเรียนวิศวะลาดกระบังแล้วดูแลกิจการใหญ่ที่บ้านต่อ ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก ช่วงไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาดไปทั่วโลก โรงพยาบาลทั้งเล็กใหญ่ในเมืองไทยดูจะไม่ค่อยพร้อมเท่าไรกันเลย

ผมเลยโทรหาเอ จำได้ว่าเป็นสองทุ่มของวันศุกร์ เล่าให้ฟังว่ามีความจำเป็นรีบด่วน แต่ไม่สามารถตั้งเบิกงบจัดซื้อจัดหาสิ่งจำเป็นได้ทันเวลา อยากได้เงินซักห้าแสนไปซื้อข้าวของและจ้างกั้นทำห้องตรวจที่โถงตึกจักรพงษ์

หลังจากฟังอยู่พักใหญ่ เอตอบมาว่า ทำไมโทรมาตอนนี้ค่ำมืด ธนาคารปิดกันหมดแล้ว เอางี้ละกัน วันจันทร์จะเอาเช็คไปให้ พอวันจันทร์เอก็เอาเช็คมามอบให้ที่โรงพยาบาลหนึ่งล้านบาท(จากที่ขอไว้ห้าแสน)พร้อมบอกว่า กลัวโรงพยาบาลไม่พอใช้ ในที่สุดเราก็ได้จัดห้องตรวจคัดกรองแยกโรคพร้อมอุปกรณ์ทั้งหลายพอให้ผ่านวิกฤตคราวนั้นมาได้ด้วยดี

ต่อมาไม่นาน ผอ.รพ.ขณะนั้นกำลังระดมทุนสร้างอาคารภูมิสิริฯซึ่งขาดอยู่อีกมาก เราเลยไปขอการสนับสนุนจาก TCP ตั้งเป้าไว้ว่าถ้าได้ 10-20 ล้านก็มากแล้ว วันรุ่งขึ้นเอก็โทรมาบอกว่า โครงการสร้างตึกภูมิสิริฯนี่ดีมากเลย ชอบมาก แต่บริษัทเพิ่งปิดงบไป ตอนนี้เลยมีให้ไม่มาก ขอให้ไว้ 80 ล้านบาทก่อน ปีต่อๆ ไปจะให้เพิ่มอีก พร้อมทั้งขอโทษขอโพยเราใหญ่

เราเองก็ดีใจมาก เพราะจะได้เงินบริจาคมาทำตึกรักษาคนไข้ให้ดี ๆ ต่อมาเอกับพี่น้องก็ทยอยร่วมกันบริจาคเพิ่มอีกเรื่อย ๆ จนเป็นสองร้อยล้านบาทสำหรับอาคารภูมิสิริที่เดียว ตอนนั้นจะขอถ่ายรูปไปทำข่าวทำอะไรก็ไม่ยอม บอกว่าไม่อยากออกหน้า ตั้งใจมาทำบุญจริง ๆ

บ่อยครั้งที่ญาติพี่น้องในครอบครัวเอป่วย ทั้งที่สามารถไปรักษาที่ไหนก็ได้ในโลก หรือโรงพยาบาลเอกชนแสนแพงในเมืองไทย เพราะยังไงก็จ่ายได้ แต่เอกับพี่น้องเลือกที่จะเข้ารักษาในโรงพยาบาลรัฐบาลแล้วตอนหลังก็มักจะบริจาคสร้างตึก ปรับปรุงสถานที่ หรือจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ราคาสูงให้เสมอ

เท่าที่ผมพอจะเห็นกับตา ได้ยินกับหูก็เช่น ศูนย์เคมีบำบัด รักษาโรคมะเร็ง ศูนย์ผ่าตัดหัวใจ หอพักนักศึกษาซึ่งแต่ละแห่งมูลค่าหลายสิบล้านทั้งนั้น ตลอดจนครุภัณฑ์ราคาเจ็ดหลัก แปดหลักก็บริจาคกันบ่อย ๆ หลายสิ่งหลายอย่างที่ว่านี้ บ่อยครั้งที่พี่น้องอยู่วิทยา ขอไม่ไปร่วมพิธีมอบ หรือขอไม่เข้าร่วมพิธีเปิด เพราะ ไม่อยากเป็นข่าว ไม่ชอบเรื่องออกหน้าออกตา

จนบางครั้งเวลามีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น คนก็มักจะไม่รู้ว่าเหล่าพี่น้องอยู่วิทยาทำความดีอะไรไว้เบื้องหลังบ้าง ผมเคยถามเอหลายครั้งว่าทำไมไม่ชอบออกหน้ากัน เอบอกว่าพ่อแม่ (คุณเฉลียวและคุณภาวนา) บอกว่าให้ปิดทองหลังพระ ทำความดีไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นรู้ แค่ตัวเองรู้ก็พอ

ผมเคยบอกเอว่าสมัยนี้น่าจะต้องออกหน้าบ้าง จะมัวแต่ปิดทองหลังพระไม่ไหวแล้ว เวลาเราเดือดร้อน คนก็ไม่มาสงสารเห็นใจ เพราะไม่ค่อยรู้สิ่งที่เราทำ พูดไปหลายสิบรอบจนช่วง หลังๆ ก็มียอมออกหน้าบ้าง

จนมาถึงวิ่งกระตุกหัวใจปี 2018 และ วิ่งกระตุกหัวใจVirtual run ปี 2019 ที่ไปขอให้เอมาช่วยทำงานกัน เอก็มาแบบจัดเต็มคือ ช่วยเงินสนับสนุนเยอะมาก เยอะกว่า major sponsor หลายราย แต่ขอออกหน้านิดเดียวโดยพยายามเกลี่ยผลิตภัณฑ์ไม่ให้เด่นนัก

นอกจากเงินแล้ว เอยังส่งทีมคนทำงานจากTCP มาช่วยอีกหลายฝ่าย แม้กระทั่งมาประชุมเองบ่อยมาก ช่วยออกความคิดระดมความเห็นจนในที่สุดเราได้เงินบริจาคร้อยกว่าล้านบาทเยอะพอที่จะสามารถซื้อเครื่อง AED แจกได้ทุกจังหวัดจังหวัดละหลาย ๆ เครื่องกันเลย ผมยังแซวกันอยู่เลยว่า เอเอาเวลาทำเงินรายได้ให้บริษัท มาทำงานการกุศลแบบตัวเองเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงิน แต่เอก็หัวเราะบอกว่าแบบนี้แหละชอบ สนุกด้วย ได้บุญด้วย

จนเมื่อธันวา-มกราที่เพิ่งผ่านมา เอกับผมโทรคุยกันบ่อยมากด้วยเรื่อง COVID19 ว่าถ้าเข้าไทยจะทำไงกันดี เรื่องเงินบริจาคช่วยคนไทยไม่ใช่ปัญหาสำหรับเอและ TCP แต่หลายๆ อย่างนั้นมีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้ เราเลยค่อยๆ เริ่มจากทำหน้ากากผ้าแบบมีไส้กรองช่วงแรกทำไปราวแสนชิ้นรวมถึงหน้ากาก N95 และชุด PPE ที่สั่งซื้อจากต่างประเทศเพื่อแจกจ่ายฟรีให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศ

ตู้อะคริลิกสำหรับตรวจโควิดที่ใช้ตรวจคนไข้และป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ก็ช่วยทั้งผลิตและจัดส่งถึงมือแพทย์พยาบาลผู้ใช้ตามโรงพยาบาลกันเลย หรือแม้กระทั่งเครื่องมือตรวจRT-PCRรุ่นล่าสุดที่เพิ่งผ่านFDAสหรัฐอเมริกาที่หายากเพราะขาดแคลนกันทั้งโลก เอก็ควักเงินสิบกว่าล้านให้โดยไม่ลังเลพร้อมทั้งช่วยต่อรองอย่างแข็งขันจนได้มาใช้ช่วยคนไทยไปได้มากโขอยู่

ระหว่างที่ช่วยกันทำเรื่องCOVID19 หลายเรื่องที่เกี่ยวกับตำรวจหรือศุลกากรนั้น เอบอกว่าไม่รู้จักใครเลย แล้วถามผมว่าพอจะช่วยได้มั้ย ทั้งเรื่องการหาหน้ากากN95จากต่างประเทศเพื่อมาแจกรพ. การนำเข้าเครื่องตรวจราคาแพงแบบจำเป็นเร่งด่วน

หรือแม้กระทั่งการจัดส่งเวชภัณฑ์และครุภัณฑ์หลายอย่างที่ต้องพึ่งตำรวจทางหลวง ผมเลยต้องอาศัยคนไข้บ้าง เพื่อนฝูงพี่น้องที่รู้จักกันบ้าง ค่อยๆ ช่วยกันจนลุล่วงไปได้ ยังนึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่า เอไม่ค่อยใช้หรือไม่ค่อยมีเส้นสายอิทธิพลเหมือนคนมีเงินทั่วๆ ไปเลย แปลกดีเหมือนกัน

ที่ผมเล่ามาข้างบนนั้นยืดยาวเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่จริงยังมีอีกเยอะและยาวมากที่เอและพี่น้องได้ปิดทองไว้ข้างหลังพระ วันนี้ผมขอโอกาสเป็นผู้ชวนให้ผู้ที่ผ่านมาอ่านเข้าแวะเดินไปชมหลังองค์พระบ้าง ถ้ามัวแต่รอให้ทองโผล่ไปข้างหน้า คนปิดทองอยู่ข้างหลังอาจจะท้อใจหรือตรอมใจจากไปก่อนกาลได้ ไม่อยากให้คนดีๆ เสียกำลังใจไป ห่วงจะไม่มีคนมาปิดทองที่องค์พระกันอีก

แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าเอจะรวยไปกว่านี้ หรือจะยากจนไม่เหลืออะไรเลย จะสุขกว่านี้ หรือจะทุกข์กว่านี้ สังคมจะรักหรือจะด่าประณามแค่ไหน ผมยังมั่นใจเสมอว่า คุณธรรมและความดีงามของเอยังคงเหมือนเดิม ผมยังภูมิใจที่ได้บอกคนอื่นเต็มเสียงทุกครั้งว่า คนนี้ คุณเอ สราวุฒิ อยู่วิทยา เพื่อนผมเองครับ"

Let's block ads! (Why?)



"คนเดียว" - Google News
July 31, 2020 at 08:20PM
https://ift.tt/317Wo4q

หมอเล่าอีกมุม ครอบครัว "อยู่วิทยา" ปิดทองหลังพระ ทำผิดคนเดียวเจอเหมารวม - Sanook
"คนเดียว" - Google News
https://ift.tt/2Wbluya

พ่อหม้ายวัยชราบ้านร่องกาศ อยู่ตัวคนเดียว หัวใจวายนั่งหลับเสียชีวิตบนเก้านอนอย่างมีความสุข - เชียงไหม่นิวส์

sendirisolo.blogspot.com

พ่อหม้ายบ้านร่องกาศนั่งหลับอย่างมีความสุขรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15:00 น.วันที่ 31 หรหฎาคม 2563 ขณะที่ พ.ต.ท.อรุณใ ชินเทพ สว.สอบสวน สภ.สูงเม่น จ.แพร่ ปฎิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนประจำ สภ.สูงเม่น จ.แพร่ ได้รับแจ้งมีคนเสียชีวิตยังไม่ทราบสาเหตุที่บ้านเลขที่ 150 หมู่3ต.ร่องกาศ อ.สูงเม่นจ.แพร่ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุชาติ สิงห์ขรณ์ ผกก.สภ.สูงเม่น และรุดไปที่เกิดเหตุร่วมกับหน่วยกู้ภัยสูงเม่น สายตรวจตำบลร่องกาศ ตำรวจชุดสืบสวนสภ.สูงเม่นและประสานแพทย์เวร รพ.สูงเม่น ร่วมชันสูตรพลิกศพ

เมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนั่งเสียชีวิต อยู่บนเตียงไม้พับนั่ง ใต้ถุนบ้าน ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายมานิตย์ พวงมณี อายุ 66 ปี เป็นเจ้าของบ้าน สภาพไม่สวมเสื้อ เปลือยกายท่อนบน สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ศีรษะแหงนขึ้น อ้าปาก มือห้อยลง ตำรวจได้ตรวจสอบบริเวณโดยและสภาพแวดล้อมต่างๆไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ หรือชนวนเหตุที่ทำให้สงสัยว่าจะเกิดจากการฆาตกรรมแต่อย่างใด จึงได้บันทึกไส้เป็นหลักฐานและนำร่าง ผู้เสียงมาชันสูตรบนม้านั่งยาวที่อยู่ใกล้ๆ เบื้องต้น แพทย์ชันสูตรการเตินของหัวใจผิดจังหวะทำให้เกิดโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเสียชีวิตประกอบกับผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว เสียชีวิตมาประมาณไม่ค่ำกว่า 5 ชั่วโมง

นายสกุล พวงมณี อายุ 50 ปี หลานชาย ผู้เสียชีวิตให้การว่า ลุงอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีลูกมีเมีย ทุกวันตนเองก็จะเป็นผู้ดูแล เมื่อเช้ววันนี้ เวลา 07.00 น.ได้นำอาหารเช้าและอาหารกลางวันมาให้ลุง และเมื่อเวลาบ่ายสองกว่า ได้มาหาลุงว่าเย็นนี้จะกินข้าวกับอะไร เห็นลุงนั่งหลับ ถามก็ไม่ตอบนิ่งอยู่ จึงเข้ามาใกล้เขย่าตัว พบว่าลุงเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งตำรวจดังกล่าว หลังชันสูตรพลิกศพญาติๆไม่คิดใจในการเสียชีวิตตำรวจจึงมอบศพให้ญาติๆนำไปประกอบตามประเพณีต่อไป

Let's block ads! (Why?)



"คนเดียว" - Google News
July 31, 2020 at 06:33PM
https://ift.tt/2XewmLW

พ่อหม้ายวัยชราบ้านร่องกาศ อยู่ตัวคนเดียว หัวใจวายนั่งหลับเสียชีวิตบนเก้านอนอย่างมีความสุข - เชียงไหม่นิวส์
"คนเดียว" - Google News
https://ift.tt/2Wbluya

'บิ๊กตู่'สยบข่าว'บิ๊กป้อม'คุมตำรวจ เมินข่าว'บิ๊กโจ๊ก'ลั่นฟัง'บิ๊กแป๊ะ'คนเดียว - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

sendirisolo.blogspot.com

วันศุกร์ ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 12.34 น.

วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เวลา 11.30 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องเข้ามาช่วยดูสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่นั้น

เมื่อถามย้ำว่า มีกระแสข่าวว่าพล.อ.ประวิตรจะมาดูตำรวจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มี ท่านก็ทำงานของท่านเยอะอยู่แล้ว ผมก็ต้องช่วยแบ่งเบาภาระของท่าน”

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นประธานก.ตร. ขณะนี้มีปัญหาระหว่างพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กับพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับมาอีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเสียงดังว่า “ผมฟังพล.ต.อ.จักรทิพย์ เพราะเป็นผู้รับผิดชอบ”

Let's block ads! (Why?)



"คนเดียว" - Google News
July 31, 2020 at 12:34PM
https://ift.tt/33bvMSR

'บิ๊กตู่'สยบข่าว'บิ๊กป้อม'คุมตำรวจ เมินข่าว'บิ๊กโจ๊ก'ลั่นฟัง'บิ๊กแป๊ะ'คนเดียว - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"คนเดียว" - Google News
https://ift.tt/2Wbluya

洛縣動物園21歲獅子伴侶安樂死 - 世界日報

sendirisolo.blogspot.com

洛杉磯動物園(Los Angeles Zoo)表示,園內21歲著名的老獅伴侶赫伯特(Hubert)與卡麗莎(Kalisa)已在30日安樂死,雖然這是個困難的決定,但牠們年事已高,且健康越來越差。 

赫伯特1999年2月7日生於芝加哥的林肯公園動物園(Lincoln Park Zoo),卡麗莎1998年12月26日生於西雅圖木地公園動物園(Woodland Park Zoo)。這對伴侶2014年自木地公園移入洛縣動物園。 

洛縣動物園的保育員比哈爾(Alisa Behar)表示,牠們的死對整個團隊來說都很沉重,一想到赫伯特就會想到卡麗莎,牠們長年來形影不離。不過自1998年以來就在一起的牠們,沒有生下任何幼崽。 

洛縣動物園指出,非洲獅原生地在撒哈拉沙漠至南非之間的草原、林地間,在動物園內的平均壽命為17年,長於野生環境。 

Let's block ads! (Why?)




July 31, 2020 at 05:01PM
https://ift.tt/3gfYw0F

洛縣動物園21歲獅子伴侶安樂死 - 世界日報

https://ift.tt/3fC8J6S

Thursday, July 30, 2020

和歌山のコロナ対策に「2020の秘話」 県が報告書 [新型コロナウイルス] - 朝日新聞デジタル

 2月中旬以降、和歌山県内でも新型コロナウイルス感染者の確認が続く中、県がこれまでの対策を振り返った報告書をまとめた。国内初の院内感染やクラスター(感染者集団)の発生などへの対応を記録に残し、今後への教訓として残そうとしている。

 「想定外のシナリオ」「体力、気力が弱りかけていた」。「未知のウイルスとの連戦 2020の秘話」という題のA4判52ページの報告書に、率直な言葉が並ぶ。2月中旬に、院内感染が明らかになった済生会有田病院(湯浅町)や中学校でのクラスターの発生などについて、感染者の行動から推定される感染経路や、対策を中心にまとめられている。対策の中心を担った県福祉保健部の野尻孝子技監が、日々の仕事の合間を縫って書き続けたものだ。

 医師2人、患者3人の感染が確認された済生会有田病院の対応を通じて、感染者を個室対応することで院内の感染拡大を予防できるのではないかと指摘。感染者の中には消化器症状を示す感染者がいることから、トイレなど共用部分での「接触感染予防対策が重要」と記した。

 4月上旬から、教員8人の感染が確認された紀の川市の中学校。感染が拡大したことについて、新年度になり、教員が職員室で机を移動したことが原因と推定した。感染した教員のうち、7人が机の移動に参加していた。感染した人が呼気を発するような運動をしたため、「ウイルスが広く拡散し、それを吸い込んだ別の人に感染させたのではないか」と分析した。

 4月下旬には、橋本市内のデイサービスセンターでも、職員2人、利用者3人の感染が確認された。高齢者のケアは密接になるため、感染が広がりやすい。「いつもと違う症状が入所者に見られた場合は、嘱託医と保健所など行政に迅速に報告することが重要」と強調した。

 報告書は7月、紀伊半島知事会議で示された。会議の資料として、県のホームページ上で公開されている。野尻技監は「自分の頭の整理もかねて、報告書にまとめた。今後の対策につなげたい」と話した。(藤野隆晃)

Let's block ads! (Why?)



"報告書" - Google ニュース
July 31, 2020 at 10:27AM
https://ift.tt/33iNWSC

和歌山のコロナ対策に「2020の秘話」 県が報告書 [新型コロナウイルス] - 朝日新聞デジタル
"報告書" - Google ニュース
https://ift.tt/2RI6i8m
Shoes Man Tutorial
Pos News Update
Meme Update
Korean Entertainment News
Japan News Update

บอส ทำผิดคนเดียวอย่าเหมารวมทั้ง อยู่วิทยา เผยบริจาคช่วยรพ.ไม่เคยเอาหน้า - ข่าวสด

sendirisolo.blogspot.com

กลายเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและจับตามอง สะเทือนไปถึงกระบวนการยุติธรรมที่ถูกจับตาและถูกตั้งคำถามมากมาย หลังจากมีคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ในคดีชนนายดาบเสียชีวิต พร้อมกันนั้นยังมีหลักฐานน่าสงสัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพยานที่ยืนยันว่า ไม่ได้ขับรถเร็ว โคเคนที่พบอ้างว่าอยู่ในยาสำหรับทันตกรรม

ล่าสุด ร.ศ.นพ.รัฐพลี ภาคอรรถ รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้เขียนถึงครอบครัวอยู่วิทยาลงในเฟซบุ๊ก ถึงเรื่องราวของคนในตระกูลอยู่วิทยา ไม่สมควรโดนโซเชียลกระหน่ำทั้งตระกูล พร้อมยืนยันว่า มีคนในตระกูลอยู่วิทยา อยู่เบื้องหลังการบริจาคเงินจำนวนมากให้โรงพยาบาลโดยที่ไม่ขอออกชื่อ ออกหน้า มาโดยตลอด

โดยระบุว่า "ผมเป็นเพื่อนของสราวุฒิ อยู่วิทยา ครับ ขอเรียกชื่อเล่นแบบง่ายๆว่า เอ อยากเขียนถึงเพื่อนคนนี้ให้คนอ่านบ้าง ช่วงนี้เอและครอบครัวเจอศึกหนักมาก โดนว่าโดนด่าจากสังคม โดนประนามจากคนที่ไม่รู้จักหนักหนาเหลือเกิน เท่าที่คุยกัน เอก็มีความรู้สึกเหมือนพวกเราทุกคนแหละครับ เพียงแต่ไม่ได้ออกมาโพสต์ความในใจให้ทุกคนอ่านหรือฟังกัน

เอก็รู้เรื่องนี้จากข่าวเหมือนเรา คือรู้ทีหลังเลย ยังตกใจเหมือนเราอีกว่า เมืองไทยทำยังงี้ได้ด้วยเหรอ(วะ) เหมือนเราตรงที่ไม่พอใจที่จะมีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม กฎหมายและความถูกต้อง แต่จะจัดการก็คงไม่ง่ายนัก

นึกถึงตอนเรียนชั้นประถม ในห้องมีเพื่อนส่งเสียงดังเล่นกันอยู่คนสองคน วันนั้นคุณครูเอาไม้เรียวหวดก้นยกชั้น ผมเองถึงแม้ยังเด็ก แต่ก็ไม่เข้าใจ ว่าเราไม่ได้ทำผิด ทำไมถึงโดนตี ครูบอกว่า อยู่ห้องเดียวกัน ไม่เตือนกัน ไม่ช่วยกันดูแล ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ครูไม่รู้หรอกครับ ว่าเราเตือน เราห้ามเพื่อนแล้ว เราช่วยกันดูแลแล้ว แต่เพื่อนตัวแสบมันไม่ฟังเรา ตอนที่โดนตี เพื่อนหลายคนก็พยายามบอกความจริงกับครูว่าอะไรเป็นอะไร แต่ครูไม่ฟัง ครูตั้งใจมาตีอย่างเดียวเลย

วันนี้สังคมในsocial media ทำตัวเหมือนเป็นครูคนนั้น ไม่แม้แต่พยายามจะฟังหรือพยายามจะเข้าใจ
เวลาที่ผ่านไป เด็กดีในห้องหลายคนก็ไม่เข้าใจว่าจะทนทำดีไปทำไมกัน สุดท้ายก็ต้องมาโดนครูตีเหมือนกับเจ้าเพื่อนตัวแสบ

ผมกับ สราวุฒิ(เอ) อยู่วิทยา เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ม.4 ที่เตรียมอุดม จากนั้นก็แยกย้ายไป ผมมาเรียนหมอที่จุฬาฯ ส่วนเอไปเรียนวิศวะลาดกระบังแล้วดูแลกิจการใหญ่ที่บ้านต่อ ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก ช่วงไข้หวัดใหญ่2009 ระบาดไปทั่วโลก โรงพยาบาลทั้งเล็กใหญ่ในเมืองไทยดูจะไม่ค่อยพร้อมเท่าไรกันเลย ผมเลยโทรหาเอ จำได้ว่าเป็นสองทุ่มของวันศุกร์ เล่าให้ฟังว่ามีความเป็นรีบด่วน แต่ไม่สามารถตั้งเบิกงบจัดซื้อจัดหาสิ่งจำเป็นได้ทันเวลา อยากได้เงินซักห้าแสนไปซื้อข้าวของและจ้างกั้นทำห้องตรวจที่โถงตึกจักรพงษ์

หลังจากฟังอยู่พักใหญ่ เอตอบมาว่า ทำไมโทรมาตอนนี้ค่ำมืด ธนาคารปิดกันหมดแล้ว เอางี้ละกัน วันจันทร์จะเอาเช็คไปให้ พอวันจันทร์เอก็เอาเช็คมามอบให้ที่โรงพยาบาลหนึ่งล้านบาท(จากที่ขอไว้ห้าแสน)พร้อมบอกว่า กลัวโรงพยาบาลไม่พอใช้ ในที่สุดเราก็ได้จัดห้องตรวจคัดกรองแยกโรคพร้อมอุปกรณ์ทั้งหลายพอให้ผ่านวิกฤตคราวนั้นมาได้ด้วยดี

ต่อมาไม่นาน ผอ.รพ.ขณะนั้นกำลังระดมทุนสร้างอาคารภูมิสิริฯซึ่งขาดอยู่อีกมาก เราเลยไปขอการสนับสนุนจาก TCP ตั้งเป้าไว้ว่าถ้าได้ 10-20 ล้านก็มากแล้ว วันรุ่งขึ้นเอก็โทรมาบอกว่า โครงการสร้างตึกภูมิสิริฯนี่ดีมากเลย ชอบมาก แต่บริษัทเพิ่งปิดงบไป ตอนนี้เลยมีให้ไม่มาก ขอให้ไว้ 80 ล้านบาทก่อน ปีต่อๆไปจะให้เพิ่มอีก พร้อมทั้งขอโทษขอโพยเราใหญ่ เราเองก็ดีใจมาก เพราะจะได้เงินบริจาคมาทำตึกรักษาคนไข้ให้ดีๆ ต่อมาเอกับพี่น้องก็ทยอยร่วมกันบริจาคเพิ่มอีกเรื่อยๆ จนเป็นสองร้อยล้านบาทสำหรับอาคารภูมิสิริที่เดียว ตอนนั้นจะขอถ่ายรูปไปทำข่าวทำอะไรก็ไม่ยอม บอกว่าไม่อยากออกหน้า ตั้งใจมาทำบุญจริงๆ

บ่อยครั้งที่ญาติพี่น้องในครอบครัวเอป่วย ทั้งที่สามารถไปรักษาที่ไหนก็ได้ในโลก หรือโรงพยาบาลเอกชนแสนแพงในเมืองไทย เพราะยังไงก็จ่ายได้ แต่เอกับพี่น้องเลือกที่จะเข้ารักษาในโรงพยาบาลรัฐบาลแล้วตอนหลังก็มักจะบริจาคสร้างตึก ปรับปรุงสถานที่ หรือจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ราคาสูงให้เสมอ

เท่าที่ผมพอจะเห็นกับตา ได้ยินกับหูก็เช่น ศูนย์เคมีบำบัด รักษาโรคมะเร็ง ศูนย์ผ่าตัดหัวใจ หอพักนักศึกษาซึ่งแต่ละแห่งมูลค่าหลายสิบล้านทั้งนั้น ตลอดจนครุภัณฑ์ราคาเจ็ดหลัก แปดหลักก็บริจาคกันบ่อยๆ หลายสิ่งหลายอย่างที่ว่านี้ บ่อยครั้งที่พี่น้องอยู่วิทยา ขอไม่ไปร่วมพิธีมอบ หรือขอไม่เข้าร่วมพิธีเปิด เพราะ ไม่อยากเป็นข่าว ไม่ชอบเรื่องออกหน้าออกตา

จนบางครั้งเวลามีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น คนก็มักจะไม่รู้ว่าเหล่าพี่น้องอยู่วิทยาทำความดีอะไรไว้เบื้องหลังบ้าง ผมเคยถามเอหลายครั้งว่าทำไมไม่ชอบออกหน้ากัน เอบอกว่าพ่อแม่(คุณเฉลียวและคุณภาวนา)บอกว่าให้ปิดทองหลังพระ ทำความดีไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นรู้ แค่ตัวเองรู้ก็พอ ผมเคยบอกเอว่าสมัยนี้น่าจะต้องออกหน้าบ้าง จะมัวแต่ปิดทองหลังพระไม่ไหวแล้ว เวลาเราเดือดร้อน คนก็ไม่มาสงสารเห็นใจ เพราะไม่ค่อยรู้สิ่งที่เราทำ

พูดไปหลายสิบรอบจนช่วงหลังๆก็มียอมออกหน้าบ้าง จนมาถึงวิ่งกระตุกหัวใจปี2018 และ วิ่งกระตุกหัวใจVirtual run ปี2019 ที่ไปขอให้เอมาช่วยทำงานกัน เอก็มาแบบจัดเต็มคือ ช่วยเงินสนับสนุนเยอะมาก เยอะกว่า major sponsor หลายราย แต่ขอออกหน้านิดเดียวโดยพยายามเกลี่ยผลิตภัณฑ์ไม่ให้เด่นนัก นอกจากเงินแล้ว เอยังส่งทีมคนทำงานจากTCP มาช่วยอีกหลายฝ่าย แม้กระทั่งมาประชุมเองบ่อยมาก ช่วยออกความคิดระดมความเห็นจนในที่สุดเราได้เงินบริจาคร้อยกว่าล้านบาทเยอะพอที่จะสามารถซื้อเครื่อง AED แจกได้ทุกจังหวัดจังหวัดละหลายๆเครื่องกันเลย ผมยังแซวกันอยู่เลยว่า เอเอาเวลาทำเงินรายได้ให้บริษัท มาทำงานการกุศลแบบตัวเองเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงิน แต่เอก็หัวเราะบอกว่าแบบนี้แหละชอบ สนุกด้วย ได้บุญด้วย

จนเมื่อธันวา-มกราที่เพิ่งผ่านมา เอกับผมโทรคุยกันบ่อยมากด้วยเรื่อง COVID19 ว่าถ้าเข้าไทยจะทำไงกันดี เรื่องเงินบริจาคช่วยคนไทยไม่ใช่ปัญหาสำหรับเอและ TCP แต่หลายๆอย่างนั้นมีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้ เราเลยค่อยๆเริ่มจากทำหน้ากากผ้าแบบมีไส้กรองช่วงแรกทำไปราวแสนชิ้นรวมถึงหน้ากาก N95 และชุดPPE ที่สั่งซื้อจากต่างประเทศเพื่อแจกจ่ายฟรีให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศ ตู้อะครีลิคสำหรับตรวจโควิดที่ใช้ตรวจคนไข้และป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ก็ช่วยทั้งผลิตและจัดส่งถึงมือแพทย์พยาบาลผู้ใช้ตามโรงพยาบาลกันเลย

หรือแม้กระทั่งเครื่องมือตรวจRT-PCRรุ่นล่าสุดที่เพิ่งผ่านFDAสหรัฐอเมริกาที่หายากเพราะขาดแคลนกันทั้งโลก เอก็ควักเงินสิบกว่าล้านให้โดยไม่ลังเลพร้อมทั้งช่วยต่อรองอย่างแข็งขันจนได้มาใช้ช่วยคนไทยไปได้มากโขอยู่

ระหว่างที่ช่วยกันทำเรื่องCOVID19 หลายเรื่องที่เกี่ยวกับตำรวจหรือศุลกากรนั้น เอบอกว่าไม่รู้จักใครเลย แล้วถามผมว่าพอจะช่วยได้มั้ย ทั้งเรื่องการหาหน้ากากN95จากต่างประเทศเพื่อมาแจกรพ. การนำเข้าเครื่องตรวจราคาแพงแบบจำเป็นเร่งด่วน หรือแม้กระทั่งการจัดส่งเวชภัณฑ์และครุภัณฑ์หลายอย่างที่ต้องพึ่งตำรวจทางหลวง ผมเลยต้องอาศัยคนไข้บ้าง เพื่อนฝูงพี่น้องที่รู้จักกันบ้าง ค่อยๆช่วยกันจนลุล่วงไปได้ ยังนึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่า เอไม่ค่อยใช้หรือไม่ค่อยมีเส้นสายอิทธิพลเหมือนคนมีเงินทั่วๆไปเลย แปลกดีเหมือนกัน

ที่ผมเล่ามาข้างบนนั้นยืดยาวเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่จริงยังมีอีกเยอะและยาวมากที่เอและพี่น้องได้ปิดทองไว้ข้างหลังพระวันนี้ผมขอโอกาสเป็นผู้ชวนให้ผู้ที่ผ่านมาอ่านเข้าแวะเดินไปชมหลังองค์พระบ้าง
ถ้ามัวแต่รอให้ทองโผล่ไปข้างหน้า คนปิดทองอยู่ข้างหลังอาจจะท้อใจหรือตรอมใจจากไปก่อนกาลได้
ไม่อยากให้คนดีๆเสียกำลังใจไป ห่วงจะไม่มีคนมาปิดทองที่องค์พระกันอีก

แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าเอจะรวยไปกว่านี้ หรือจะยากจนไม่เหลืออะไรเลย จะสุขกว่านี้ หรือจะทุกข์กว่านี้ สังคมจะรักหรือจะด่าประนามแค่ไหน ผมยังมั่นใจเสมอว่า คุณธรรมและความดีงามของเอยังคงเหมือนเดิม ผมยังภูมิใจที่ได้บอกคนอื่นเต็มเสียงทุกครั้งว่า "คนนี้ คุณเอ สราวุฒิ อยู่วิทยา เพื่อนผมเองครับ"

ผมเป็นเพื่อนของสราวุฒิ อยู่วิทยา ครับ ขอเรียกชื่อเล่นแบบง่ายๆว่า...

โพสต์โดย Rattaplee Pak-art เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม 2020

Let's block ads! (Why?)



"คนเดียว" - Google News
July 31, 2020 at 10:47AM
https://ift.tt/2XfEQ5k

บอส ทำผิดคนเดียวอย่าเหมารวมทั้ง อยู่วิทยา เผยบริจาคช่วยรพ.ไม่เคยเอาหน้า - ข่าวสด
"คนเดียว" - Google News
https://ift.tt/2Wbluya

[유기자의 차이나샵#] 화웨이 10.8인치 메이트패드 발표···40만 원 대 - CNET Korea

sendirisolo.blogspot.com

(씨넷코리아=유효정 중국 전문기자) 중국 화웨이가 메이트패드(MatePad) 10.8인치 모델을 발표했다. 30일부터 중국 온라인에서 예약구매를 시작했고, 8월 13일 중국서 정식 발매된다.

중국 판매 가격은 2399위안(약 40만8천원)부터 시작한다. 이 제품은 화웨이 기린990 인공지능(AI) 프로세서를 탑재했으며 와이파이(Wifi) 6+를 지원한다. 2K 화질에 7500mAh 배터리를 장착했으며 화웨이 'Histen 6.1' 3D 입체 음향 기능도 탑재했다. 

메이트패드(MatePad) 10.8인치 모델 (사진=화웨이)

화웨이 메이트패드 10.8은 젊은 세대와 직장인을 타깃으로 기기간 데이터 전송 기능을 높였으며 더 빠르게 네트워크와 연결되도록 사용성을 강화했다. 

이 제품은 전에 출시됐던 화웨이 'M6' 대비 스마트 기능이 강화됐다. 손글씨 쓰기 등 기능이 업그레이드 되면서 메이트패드 프로(MatePad Pro) 수준의 M펜슬(M-Pencil)을 사용할 수 있다. 

화웨이 측은 "M펜슬은 4096단계 감압을 지원, 손글씨 지연을 없애 고속 필기가 가능하다"고 설명했다. 자체 노트 소프트웨어로 기록 기능을 향상시켰고 화웨이 'EMUI 10.1 OS'를 장착했다. 

가격은 ▲6GB+64GB 모델이 2399위안 6GB+128GB 모델이 2799위안(약 47만6천원) 6GB+256GB 모델이 3599위안(약 61만2천원) 6GB+128GB 모델이 3199위안(약 54만4천원)이다.

메이트패드(MatePad) 10.8인치 모델 (사진=화웨이)

[유기자의 차이나 샵#]은 유효정 중국 전문기자가 신기하고 기발한 중국 IT제품을 소개하는 코너입니다.

Let's block ads! (Why?)




July 31, 2020 at 11:04AM
https://ift.tt/2Dipm9Q

[유기자의 차이나샵#] 화웨이 10.8인치 메이트패드 발표···40만 원 대 - CNET Korea

https://ift.tt/2B4q9dq

ビリー・アイリッシュのレーベルメイト=オリバー・マルコム、新曲「The Machine (ザ・マシーン)」のMV公開 - TVグルーヴ・ドット・コム

Die App zum Abfall - Süddeutsche Zeitung

sendirisolo.blogspot.com

Mängel-Melder heißt eine Plattform, die die Stadt Nürnberg betreibt. Mit ein paar Klicks kann man dort online auf defekte Laternen, Straßenschäden oder Müllansammlungen hinweisen. Ähnliches schwebt dem Bezirksausschuss (BA) Berg am Laim auch für München vor. Ursprünglich hatte die CSU-Fraktion dafür die Entwicklung einer mobilen App in Erwägung gezogen, dies aber wieder verworfen, weil es bereits seit 2017 innerhalb der "Rein. Und. Sauber"-Kampagne des Baureferats ein Online-Formular für solche Fälle gibt. Jetzt will die Fraktion diese nach dem Nürnberger Vorbild erweitert sehen. Um das Ganze möglichst einfach zu halten, sei es sinnvoll, "wenn man alles in einem hätte", so Fabian Ewald (CSU). Eine Option wäre beispielsweise, das Online-Formular über die München-App zugänglich zu machen. Dann könnten Bürgerinnen und Bürger direkt vom Smartphone aus darauf aufmerksam machen, dass sich Abfall häuft oder Schnee geräumt werden muss. Manuel Weiß (Grüne) kritisierte, es sei damit nicht getan und eine zeitnahe Behebung des gemeldeten Problems notwendig. Dafür wiederum müssten zunächst die Kapazitäten bei den zuständigen Stellen vorhanden sein. Über die Online-Dokumentation des Bedarfs könne man diese wiederum besser anpassen, konterte Ewald. Letztlich stimmte der BA dem Antrag zu und leitete ihn ans IT-Referat der Stadt weiter.




July 31, 2020 at 02:29AM
https://ift.tt/2P7LSVx

Die App zum Abfall - Süddeutsche Zeitung

https://ift.tt/31FhsRU
Abfall

林俊賢囡囡爆床史曾有5個性伴侶林鈺洧遇雙魚男友未除褲已完事 - 香港蘋果日報

sendirisolo.blogspot.com

ViuTV最近熱播的清談節目《對號入座》,找來逾20名後生仔女參與,包括80年代無綫小生林俊賢的女兒林鈺洧(Denice)。節目早前以性為題目,Denice在節目中相當健談,主動大爆性史,指自己曾有5個性伴侶,更大講不同星座男友有不同喜好,讚天蠍座男友持久多花式,雙魚座男友則未除褲已完事。

林二汶與占卜師Jan Jan擔任主持的ViuTV節目《對號入座》,以12星座、塔羅牌等占星術探討不同主題。節目找來二十多名年輕人分享感受,嘉賓不時都言論大膽,夏雨兒子黃奕晨早前在節目自爆,曾失蹤三個月飛英國媾女,令夏雨嬲足一年當他透明。《對號入座》周一、周二兩集以性為主題,現年25歲的林俊賢女兒林鈺洧也是參與者,她在節目中爽直大爆性史:「其實我只係曾經同十幾個男仔約會過啫,真係上過床嘅就有5個人。」她提到5個人中只有4個不同星座,因其中兩名性伴侶都是山羊座。

收下體照唔敢再回

讚天蠍男友招式多

二汶及Jan Jan隨後提到那一個星座性能力最強,Denice立即舉手分享,她表示自己是一個好熱情的女仔,鍾意的話會好主動,並大讚一名天蠍座的男友:「佢淨係用眼神都電暈我,唔止靚仔、高大,喺床上有好多招式同持久。如果需要同天蠍座嘅男仔發生關係,係需要好大體力,佢會將你反嚟反去,翻天覆地咁,好暈,流晒汗。」Jan Jan隨後也指天蠍座是星座中性能力最強,因為天蠍座是12星座中負責管性,是專長,並指天蠍座「閂埋房門會變成另一個人」。

Let's block ads! (Why?)




July 31, 2020 at 03:21AM
https://ift.tt/33bc0XJ

林俊賢囡囡爆床史曾有5個性伴侶林鈺洧遇雙魚男友未除褲已完事 - 香港蘋果日報

https://ift.tt/3fC8J6S

家庭的忠實伴侶,Volkswagen Touran 低調但卻是最懂家庭的車 - Yahoo奇摩汽車

sendirisolo.blogspot.com
家庭的忠實伴侶,Volkswagen Touran 低調但卻是最懂家庭的車

若像電玩或動漫一樣,「人設」可以重來,我現在變身擁有兩個小孩的父親,小孩出門都是還需要乘坐兒童安全座椅的階段,要我挑一台車,我可能不會把範圍框在時興的休旅車,而會是一輛 5+2 人座的 MPV 轎式休旅車款,其中 Volkswagen Touran,更是選車清單中一定不會錯過的要角。

試駕車型為 Volkswagen Touran 280 TSI R-Line,售價為新台幣 138.8 萬元。

為何跳過休旅車?從車輛定位而論,MPV 本就是以載人機能最大化設定的車款,近乎單廂式的車體,友善的上下車高度、寬廣的視野、多變的座椅機能,多數還有可攻可守的第三排座椅,不用像 SUV  5+2 人座車型一定要來個 4.6 米以上的車身長度,論停車的便利性,MPV 自然是更棒。

在 SUV 休旅市場的夾攻下,此類中小型的 MPV 存活的不多,除了幾款國產代表以外,大概就剩下此次試車主角 Volkswagen Touran,私心認為,從設計美感、從內裝質感、從內裝機能面,Touran 都是最好的代表。

要挑選一輛以空間機能為主的車型,Volkswagen 本來就是很棒的品牌選擇,從多年來商旅車系的經驗累積,在乘用車領域上,Volkswagen 同樣有著很棒的空間機能,Golf 就做了最佳示範,一直是同級車款中空間表現的模範生。而在 Touran 身上也不例外,直挺線條的外觀內,換得的就是極佳的空間運用,且透過適度的妝點,如此次試車主角的 R-Line 套件,讓原本樸實的造型多了些亮點,雖然不到超級吸睛,但看久了那種美感,感覺更禁得起時間的考驗。

外觀加諸 R-Line 套件,包含空力套件與專屬銘牌。18 吋輪圈為 R-Line 車型專屬。單邊雙出排氣尾管稍微添增一些性能味。

把個人的美感擺在一旁,坐進車內,尤其第二排座椅,你就可以感受到為何我對 Touran 是如此的喜愛,三個獨立座椅各有前後滑移、椅背調整機制,再搭配上兩個獨立第三排座椅,若把副駕駛座椅也傾倒,不僅可以放下 2.7 米長的物品,置物容積還可以在 137~1857 公升間自由變換。對於家庭用車而言最需要的是什麼?除了「安全」以外,我相信很多父母親會跟你說是「空間」,而這,就正是 Touran 的強項。

採用舒適型真皮座椅。第二排座椅採取三只獨立座椅設計,個別皆具有前後滑移與椅背角度調整功能。後座出風口具備電子控溫面板與折疊餐桌都是標準配備。第三排座椅也採獨立設計。七人乘坐時後方置物容積為 137 公升。第二排座椅完全傾倒後,最大置物容積可達 1857 公升。車系標配 8 吋多媒體鏡面觸控主機,並有多媒體手機鏡射功能。三區電子恆溫空調也為車系標配。車內 R-Line 套件除了座椅上的字樣以外,湛黑頂篷也是專屬配備之一。R-Line 專屬金屬踏板。R-Line 專屬前車門金屬門檻飾板。

說完了空間,接著來看看安全。而這也是此次再次試駕 Touran 的原因。2020 年式的 Touran,將 IQ. DRIVE 智能駕駛輔助系統列為車系標準配備,試駕的最高規格 280 TSI R-Line 車型科技更是齊全,熟悉的 ACCAEB、車道修正輔助、車側盲點警示、後方橫向車流警示等功能無一漏缺,不過車道修正輔助比較偏向類似「乒乓球」的修正邏輯,也就是即將觸碰到車道線再修回的方式,而非一直維持在車道內的 Level 2 自動駕駛科技等級,但以台灣的用車路況而論,其實此般的 IQ. DRIVE 智能駕駛輔助系統已相當足夠,且在同級或百萬內的 5+2 人座 MPV 車型中,有著  IQ. DRIVE 智能駕駛輔助系統的 Touran 可說是擁有最完整 ADAS 先進主動安全系統的唯一選擇。

2020 年式 Touran 標配 IQ. DRIVE 智能駕駛輔助系統。ACC 主動式固定車距巡航系統控制介面位於方向盤左側。車側維持及偏移警示系統雖然含有修正輔助功能,但基本上不算是車道置中維持的等級。

全數改採 1.4TSI 渦輪增壓汽油引擎的動力編成,搭配上七速 DSG 的動力佈局,這是集團內相當熟悉的規格,對應此車長4 527mm、車重 1580kg 的車型,絕對可以用「輕鬆」形容整體的加速感受,但值得一提的是,試車過程時多數以兩人乘坐為主,若遇上七名成員滿座、遭遇上山陡坡情形,可能就需要更深的油門,爬上坡是一定沒問題,但要到游刃有餘,可能就要端看每個人對於動力的需求與體認了。

Touran 全面採取單一動力配置,280 TSI 代表的是搭載 1.4 升渦輪增壓汽油引擎,具備 150hp/5000~6000rpm 最大馬力與 25.5kgm/1500~3500rpm 最大扭力輸出。銜接七速 DSG 雙離合器自手排變速系統。原廠數據顯示,可於 8.9 秒內完成 0-100km/h 加速過程,動力表現實屬輕快且活潑。

提到此動力編成,相信也有不少買家擔心日後的保養維修與品質耐用等問題,平心而論,在過去的市場評價中,消費者有此擔心可以想見,但以當前 Volkswagen 積極的挽救品質、提升售後服務水平的努力,再加上市場使用心得的回饋,車輛整體耐用度似乎已有所回升,如果可以繼續挺進,搭配既有優異的車輛本質,Touran 仍有機會成為最適家庭用車長青樹的代表。

Let's block ads! (Why?)




July 30, 2020 at 09:25AM
https://ift.tt/30ZzpIR

家庭的忠實伴侶,Volkswagen Touran 低調但卻是最懂家庭的車 - Yahoo奇摩汽車

https://ift.tt/3fC8J6S